พระชนม์ชีพสมรสและสิ้นพระชนม์ ของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ (ค.ศ. 1796–1817)

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ออกัสตาและเจ้าชายเลโอโปลด์แห่งซัคเซิน-โคบูร์ก-ซาลเฟลด์ พระสวามี วาดโดยจอร์จ ดาวี

ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จไปฮันนีมูนที่พระราชวังโอ๊ตแลนด์ ซึ่งเป็นที่ประทับของดยุกแห่งยอร์กในเซอร์เรย์ เป็นพระตำหนักที่ไม่ดีและเต็มไปด้วยสุนัขจากยอร์กและอบอวนไปด้วยกลิ่นของสัตว์ แต่เจ้าหญิงทรงเขียนถึงเจ้าชายเลโอโปลด์ว่าทรงเป็น "คู่พระทัยที่สมบูรณ์แบบ"[78] สองเดือนหลังจากการเสกสมรส เจ้าชายผู้สำเร็จราชการได้เสด็จมาเยี่ยมทั้งสองพระองค์ที่โอ๊ตแลนด์ พระองค์ทรงใช้เวลาสองชั่วโมงในการอธิบายรายละเอียดของเครื่องแบบทหารแก่เจ้าชายเลโอโปลด์ ซึ่งเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงบันทึกว่า "เป็นสิ่งแสดงถึงอารมณ์ขันที่สมบูรณ์แบบที่สุด"[79] เจ้าชายเลโอโปลด์และพระชายาได้เสด็จกลับลอนดอนในช่วงออกงานสังคม และเมื่อทั้งสองพระองค์ได้เสด็จไปยังโรงละคร ทรงได้รับการปรบมือโห่ร้องอย่างหนักหน่วงจากผู้เข้าร่วมชมเช่นเคย และมีตัวแทนร้องเพลง "ก็อดเซฟเดอะคิง" เมื่อเจ้าหญิงทรงพระประชวรที่โรงละครโอเปร่าหลวง สาธารณชนได้กังวลต่อพระพลานามัยของพระนางอย่างมาก ได้มีการประกาศออกมาว่าพระนางทรงแท้งพระบุตร[80] ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1816 ทั้งสองพระองค์ได้ทรงเข้าประทับครั้งแรกที่แคลร์มอนท์[81]

แพทย์ประจำพระองค์ของเจ้าชายเลโอโปลด์[82] คริสเตียน สต็อกมาร์ (ต่อมาคือ บารอนสต็อกมาร์ เป็นที่ปรึกษาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและเจ้าชายอัลเบิร์ต)[83] ได้เขียนว่าในช่วงเดือนแรกของการเสกสมรส เขาไม่เคยเห็นเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ไม่ทรงสวมฉลองพระองค์ที่ดูเรียบ ๆ เช่นเคย และทรงมีรสนิยมที่ดี เขายังคงตั้งข้อสังเกตว่าพระนางทรงสงบเสงี่ยมมากขึ้นและทรงควบคุมพระองค์เองได้มากกว่าเดิม และทั้งนี้คาดว่าเป็นเพราะอิทธิพลของเจ้าชายเลโอโปลด์[82] เจ้าชายเลโอโปลด์ทรงเขียนในภายหลังว่า "ยกเว้นในช่วงที่ฉันออกไปยิงปืน เราอยู่ด้วยกันตลอด และเราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่เหนื่อยใจกันเลย"[84] เมื่อเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงตื่นเต้นเกินไป เจ้าชายเลโอโปลด์ทรงตรัสแต่เพียงว่า "Doucement, chėrie" ("เบา ๆ หน่อย ที่รัก";"Gently, my love") เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงยอมรับคำติเตือนโดยทรงปรับปรุงพระองค์และจะทรงเริ่มเรียกพระสวามีว่า "Doucement"[85]

คนโคบูร์ก ซึ่งเป็นคำที่ถูกเรียกเมื่อพวกเขาเดินทางมาอังกฤษ ได้ใช้เวลาในช่วงวันหยุดคริสต์มาสที่ Brighton Pavilion พร้อมกับพระราชวงศ์คนอื่น ๆ ในวันที่ 7 มกราคม เจ้าชายผู้สำเร็จราชการได้จัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพื่อฉลองวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ครบ 21 พรรษา แต่กลุ่มคนโคบูร์กไม่ได้เข้าร่วม พวกเขาได้กลับไปยังแคลร์มอนท์และเลือกที่จะอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ ในช่วงปลายเดือนเมษายน ค.ศ. 1817 เจ้าชายเลโอโปลด์ทรงแจ้งต่อเจ้าชายผู้สำเร็จราชการว่า เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงพระครรภ์ และมีโอกาสว่าเจ้าหญิงจะทรงพระครรภ์ได้จนถึงกำหนด[86]

ภาพเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ วาดโดยเซอร์โทมัส ลอว์เรนซ์ ซึ่งเป็นภาพที่วาดก่อนพระนางจะสิ้นพระชนม์ในอีกไม่กี่วัน

การที่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงพระครรภ์เป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก ร้านค้าต่าง ๆ ได้พนันถึงเพศของบุตรที่ประสูติมา นักเศรษฐศาสตร์คำนวณว่าการที่เจ้าหญิงทรงมีพระสูติกาลจะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นสูงขึ้นถึง 2.5% และถ้าทรงมีพระประสูติกาลพระโอรสจะพุ่งขึ้นเป็น 6% เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงประทับอย่างเงียบ ๆ ทรงใช้เวลาส่วนมากในการประทับนั่งเพื่อให้เซอร์โทมัส ลอว์เรนซ์ได้วาดภาพของพระนาง[87] พระนางทรงเสวยอย่างหนักและทรงออกกำลังน้อย ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1817 กลุ่มแพทย์ได้เริ่มต้นถวายการดูแลก่อนมีพระประสูติกาล พวกเขาได้วางกฎเกณฑ์การเสวยอย่างเข้มงวด โดยหวังว่าจะช่วยลดขนาดของบุตรที่ประสูติออกมา การอดอาหารและการเอาพระโลหิตออกในบางครั้งได้ทำให้พระพลานามัยของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรุดลง สต็อกมาร์ประหลาดใจในวิธีการรักษาที่ล้าสมัยนี้มากและเขาถูกปฏิเสธในการเข้าร่วมกับกลุ่มแพทย์ โดยเชื่อว่าการที่เขาเป็นชาวต่างชาติจะทำให้เขาถูกตำหนิเมื่อมีบางสิ่งผิดพลาด[88]

โดยส่วนมากเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงได้รับการถวายการรักษาวันต่อวันจากเซอร์ริชาร์ด ครอฟท์ ครอฟท์ไม่ใช่แพทย์หลวง แต่เป็นสูติแพทย์ หรือพยาบาลผดุงครรภ์ชาย ซึ่งเป็นอาชีพที่ขณะนั้นนิยมในหมู่ผู้ร่ำรวย[89] เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงเชื่อว่าพระนางจะมีพระประสูติกาลในวันที่ 19 ตุลาคม แต่เมื่อเดือนตุลาคมสิ้นสุด ก็ไม่มีสัญญาณการประสูติของเจ้าหญิง และมีการกีดกันเจ้าชายเลโอโปลด์ออกไปเช่นเคยตามประเพณีในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน[90] ในช่วงเย็นของวันที่ 3 พฤศจิกายน เจ้าหญิงทรงเริ่มมีพระอาการเกร็ง เซอร์ริชาร์ด ได้กระตุ้นให้พระนางทรงออกกำลัง แต่ไม่ให้พระนางเสวยใด ๆ ในเย็นวันนั้น เขาได้ส่งคนไปหาเจ้าหน้าที่ที่มาเป็นสักขีพยานและยืนยันการประสูติของพระบุตร จากวันที่ 4 พฤศจิกายนจนถึงวันที่ 5 เป็นที่แน่ชัดได้ว่าเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ไม่อาจมีพระประสูติกาลพระบุตรออกมาได้ ครอฟท์และแม็ททิว บาอิลลี แพทย์ประจำองค์เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ได้ตัดสินใจเรียกตัวสูติแพทย์คือ จอห์น ซิมส์[91] แต่ครอฟท์ไม่อนุญาตให้ซิมส์พบผู้ป่วยและมีการสั่งห้ามใช้คีมคีบ ตามที่พลาวเดนบันทึกในหนังสือของเธอว่า พวกเขาอาจจะพยายามช่วยชีวิตทั้งเจ้าหญิงและพระบุตร แม้ว่าจะมีโอกาสการสิ้นพระชนม์สูงเนื่องจากเครื่องมือเหล่านี้ถูกใช้ก่อนยุคยาฆ่าเชื้อโรค[92]

ในเวลาสามทุ่มของวันที่ 5 พฤศจิกายน เจ้าหญิงทรงมีพระประสูติกาลพระโอรสซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ มีความพยายามอย่างเปล่าประโยชน์ที่จะรักษาชีวิตของพระโอรส และผู้สังเกตการณ์ได้ยืนยันว่าเป็นพระโอรสที่หล่อเหลา ซึ่งดูเหมือนกับพระราชวงศ์ พวกเขามั่นใจว่าพระมารดาทรงทำดีที่สุดแล้ว จากนั้นพวกเขาก็เดินออกไป เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ผู้อ่อนล้าทรงฟังข่าวอย่างสงบ และทรงกล่าวว่ามันเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เจ้าหญิงทรงบำรุงพระกำลังหลังจากที่พระอาการดูเหมือนจะฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว[93] เจ้าชายเลโอโปลด์ทรงประทับอยู่กับพระชายาโดยตลอด เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงเสพฝิ่นและทรงทรุดพระองค์ลงบนแท่นบรรทม[94]

ไม่นานหลังเที่ยงคืน เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงเริ่มอาเจียนอย่างรุนแรงและทรงตรัสว่าทรงปวดท้องอย่างมาก เซอร์ริชาร์ดถูกเรียกมา เขาตกใจมากที่ผู้ป่วยมีพระวรกายเย็นเฉียบเมื่อเขาสัมผัส พระนางทรงหายใจลำบากและพระโลหิตไหลออก เขาพยายามประคบร้อนลงบนพระนาง ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับในสมัยนั้นสำหรับอาการตกเลือดหลังคลอด แต่พระโลหิตกลับไม่หยุดไหล เขาเรียกสต็อกมาร์และเร่งให้เขาไปพาเจ้าชายเลโอโปลด์มา สต็อกมาร์พบว่าเจ้าชายเลโอโปลด์ทรงยากที่จะปลุกให้ทรงตื่น และทรงพยายามต้องการพบเจ้าหญิง ทรงจับแขนของเขาแล้วตรัสว่า "พวกมันทำให้ฉันมึนไปหมด" สต็อกมาร์ออกไปจากห้อง เขาพยายามที่จะปลุกเจ้าชายอีกครั้ง แต่เขาถูกเรียกด้วยเสียงของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ที่ว่า "สต็อกกี้! สต็อกกี้!" เขารีบเข้าไปที่ห้องของพระนางและพบว่าพระนางสิ้นพระชนม์แล้ว[95]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ (ค.ศ. 1796–1817) http://books.google.com/?id=TxqfYPZsWFYC http://books.google.com/books?id=v4krPhqFG8sC http://books.google.com/books?id=v4krPhqFG8sC&pg=P... http://books.google.com/books?id=vpfuc37LLEAC http://books.google.com/books?id=vpfuc37LLEAC&lpg=... //www.worldcat.org/oclc/2357829 http://www.nationalarchives.gov.uk/nra/searches/su... https://archive.org/details/charlotteleopold00jame https://archive.org/details/prinnysdaughterl0000ho... https://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Prince...